แวะเช็คลิสต์การเตรียมตัวก่อนออกเดินทางสู่ "จอร์แดน"

พกพาสปอร์ตไปเล่มเดียว ไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า
http://skeducation.com/passport/
จอร์แดนเป็นหนึ่งในประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวไทย ที่เดินทางไปเที่ยวแบบไม่ต้องยุ่งยากของวีซ่า เพราะสามารถของ (Visa on Arrival) ได้ที่ปลายทาง ซึ่งสามารถทำได้ไม่เกิน 30 วัน อัตราค่าธรรมเนียมประมาณ 40 ดีนาร์จอร์แดน ตีเป็นเงินบ้านเราก็ประมาณ (1737 บาท)
บินตรงก็ดี หรือจะแวะก็ได้
เที่ยวจอร์แดนบินแบบที่คุณสะดวก มีสายการบิน (Royal Jordanian) ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของจอร์แดน ให้บริการบินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิไปสู่กรุงอัมมาน ซึ่งเวลาเดินทางประมาณ 8.45 ชั่วโมง หรือจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก คือ บินแบบแวะพัก ซึ่งสายการบินในแถบตะวันออกกลางให้บริการหลายการบิน เช่น คูเวต , โอมาน , เอมิเรตส์ , กัลฟ์แอร์ (บาห์เรน) เป็นต้น
ภาษา ไม่ใช่ปัญหาในการสื่อสาร
https://www.saturdayeveningpost.com/2015/03/whither-free-speech/
จอร์แดนเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวชาวตะวักตกเดินทางไปเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก รายได้หลักของประเทศ มีเรื่องการท่องเป็นส่วนหนึ่งเลยทีเดียว ดังนั้นตามโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ คุณจะได้เห็นชาวจอร์แดนสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับที่ดีเลยที่เดียว
ประเทศเล็ก แต่ที่เที่ยวแน่น
https://nilecruisers.com/why-book-egypt-and-jordan-tours/
จอร์แดนเป็นประทศที่ไม่ได้ใหญ่มากนัก ถ้าขัยรถแบบจริงๆก็ใช่เวลาแค่ 5-6 ชั่งโมง จากเหนือจรดใต้ของประเทศ ดังนั้นการท่องเที่ยวในดินแดนทะเลทรายแห่งนี้ ใช้วันเวลาในการท่องเที่ยวแค่ 5-7 วัน ก็สามารถเที่ยวจอร์แดนได้ควบคุมและไฮ ไลท์สำคัญของการท่องเที่ยวแบบจุๆ
ค่าใช้จ่ายรายวัน
https://www.worldatlas.com/articles/what-is-the-currency-of-jordan.html
ค่าครองชีพในจอร์แดนไม่สูงมากนัก ถ้าเดินทางกันเองเลือกที่พักสไตล์เกสต์เฮาส์ โรงแรมเล็กๆ กินอาหารตามร้านทั่วไป หรือซื้อจากริมทางของชาวบ้าน และนั่งรถสาธารณะ คุณอาจจะใช้จ่ายประมาณวันล่ะ 2000 เท่านั้น แต่ถ้ายกระดับการพักโรงแรม กินอาหารที่ดูดีขึ้นมาหน่อย รวมค่าเช่ารถ หรือค่าเช่าทัวร์ ก็ตกอยู่ประมาณวันล่ะ 5000 บาท หรือต้องการเข้าพักโรงแรมระดับห้าดาว กินอาหารหรูๆหน่อย ค่าใช้จ่ายก็เป็นเหมื่น บาท
จอร์แดนควรเที่ยวฤดูไหน
https://www.kimkim.com/c/how-many-days-should-you-spend-in-jordan
ฤดูท่องเที่ยวของจอร์แดน ประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม และ เดือนมีนาคม-พฤษภาคม จะเป็นช่วงที่มีอากาศไม่ร้อนมาก แต่ถ้าเดินทางไปในช่วงฤดูหนาว ช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ข้อเสียคือ ในช่วงกลางคืนทะเลทรายจะมีอากาศที่หนาวมาก แต่ถ้าหากใครที่ชอบอากาศหนาวอยู่แล้วก็สามารถไปได้ ดังนั้นการไปเที่ยวจอร์แดนแนะนำให้ท่านเช็คสภาพอากาศให้ดี เสื้อแจ๊คเก็ต ผ้าพันคอ ที่กันแดดครีมกันแดด และกันลมหนาว อาจจะเป็นสิ่งจำเป็นที่คุณจะได้ใช้ในวันเดียวกัน
อาหารการกิน
https://migrationology.com/jordanian-food/
อาหารของจอร์แดนเหมือนกับอาหารประเทศอาหรับทั่วไป ที่ไม่มีเนื้อหมูแน่ๆ จะมีแต่ เนื้อวัวและเนื้อแกะ มีผักสดผักดอง มะเขือเทศฉ่ำๆ ซึ่งเรียกได้ว่า อร่อยพอสมควร และในโรงแรมใหญ่ๆก็มีอาหารสไตล์ตะวันตกให้ได้กินทุกแห่ง ไปแล้วลองหาเมนูที่เรียกว่า Mansaf เป็นอาหารประจำชาติจอร์แดน ทำจากแกะหมักโยเกิร์ต เสิร์ฟมาพร้อมกับข้าว นอกจากนี้ในจอร์แดน มีเบียร์ที่ผลิตเองยี่ห้อดังอย่าง Petra หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป
มาจอร์แดนซื้ออะไรดี
https://www.nationalgeographic.com/travel/destinations/asia/jordan/shopping-souvenirs-souk/
ของฝากจากจอร์แดนมีอะไรให้เลือกมากมาย ตามสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ แต่ว่ากันว่าของที่ระลึกที่มีอะไรเกี่ยวกับอูฐ ถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของจอร์แดน หรือคุณจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวก็ได้ ซึ่งเกลือจากเดดซีนั้นมีแร่ธาตุบำรุงสุภาพและผิวพันได้อย่างมหัศจรรย์
ซื้อทัวร์ก็ดี เที่ยวเองก็ได้
https://secret-travel.guide/eng/travel-to-jordan
การซื้อบริการทัวร์คือชัดเจนอยู่แล้วว่าคุณสามารถประหยัดเวลา และไม่ต้องวางแผนอะไรมาก และยังสะดวกในการติดต่อสถานที่ท่องเที่ยวในท่องถิ่นอีกด้วย แต่อย่างก็ตามการที่ไปเที่ยวด้วยตัวเองก็ไม่ได้ยากนักในจอร์แดน เพราะการเดินทางในประเทศใช้รถยนต์เป็นหลัก ที่นี้ยังมีให้บริษัทเช่ารถยนต์ที่มีมาตรฐานให้บริการ ถนนหนทางถือว่าค่อนข้างดี มีช่วงเดินทางข้ามเมืองไกลๆที่แทบไม่ค่อยมีรถ ยกเว้นการจราจรในกรุงอัมมาน ที่อาจทำให้คุณปวดหัวได้บ้างเล็กน้อย